พระแม่มิ่งมาตามหาราชิน

พระราชกรณียกิจ

พระแม่เมืองแม่แห่งชาติ

พระราชจริยวัตรด้านการศึกษา

พระมหากรุณาศิลปาชีพล้ำค่า

ทรงสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายประจำชาติของสตีไทย

ทรงสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายประจำชาติของสตีไทย

 

เมื่อพุทธศักราช ๒๕๐๓ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ๑๕ ประเทศ ในทวีปอเมริกาและยุโรป มีพระราชดำริว่า สตีไทยพูกวัฒนธรรมตะวันตกครอบงำ แต่งกายแบบตะวันตำจนไม่มีเครื่องแต่งการประจำชาติ ที่เป็นแบบฉบับหรือเป็นเอกลักษณ์แสดงความเป็นไทย ดังที่สตรีของบางประเทศมีปรากฎเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลกเช่น ชุดกิโมโนของสตีญี่ปุ่น ชุดกี่เพ้าของสตีเวียดนา ชุดส่าหรีของสตรอินเดีย เป็นต้น จึงมีพระราชดำริคิดประดิษฐ์เครื่องแต่งกายประจำชาติขึ้นเพื่อทรงนำไปใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศครั้นนั้น

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จังโปรดฯให้ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ปรึกษากับท่านผู้ใหญ่ที่รอบรู้ด้านประวัติศาสตร์ ร่วมกันศึกษาค้นคว้าเครื่องแต่งกายของสตีไทยสมัยต่างๆ แล้วคิดแบบทูลเกล้าฯถวามยให้ทรงพิจารณาเลือก เมื่อทรงเลือกแบบที่เหมาะสมแก่โอกาสและสถานที่แล้วโปรดเกล้าฯให้ช่างฉลิงพระองค์ คือ คุณไพเราะ หงษ์เจริญ นำไปเป็นแบบตัดเย็บฉลองพระองค์องค์แรกถวาย หลังจากนั้น คุณหญิงอุไร ลืออำรุง ตัดเย็บฉลองพระองค์องค์อื่นๆถวายเพื่อทรงในโอกาสต่างๆ เป็นแบบผ้าซิ่นกับเสื้อแขนกระบอก หรือผ้าซิ่นกับสไบต่างกันหลายแบบ และได้โปรดเกล้าฯให้ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค คิดชื่อประจำชุดขึ้นเพื่อเป็นแบบฉบับเครื่องแต่งกายสตรีประจำชาติต่อไป ดังนี้

๑. ชุดไทยเรือนต้า ลักษณะเป็นซิ่นป้ายจ้าง ยาวกรอมข้าเท้า เสื้อคอคบม แขนสามส่วนเข้ารูป ผ้าหน้าตลอด ติดกระดุม อาจใช้ผ้าไหมหรือผ้าฝ้ายตัดงานเลี้ยงสังครรค์แบบกันเอง เป็นต้น

๒. ชุดไทยจิตรลดา ลักษณะเป็นซิ่นป้ายข้าง ยาวกรอบข้อเท้า ตัดเย็บด้วยผ้าไหมมีเชิง หรือไหมมีเชิง หรือไหมเกลี้ยง เสื้อเข้ารูปคอตั้งแขนยาว ผ้าหน้าตลอด ติดกระดุมสวมใส่เครื่องประดับอัญมณีตามควร ใช้แต่งในงานพิธีจัดเลี้ยงฉลองสมรสตอนค่ำ

๓.ชุดไทยอมรินทร์ มีลักษณ์เช่นเดียวกับชุดไทยจิตลดา แต่ใช้ผ้ายกไหมดิ้นเงินหรือดิ้นทอง มีเชิง ตัดเย็บเป็นซิ่น สมวเครื่องประดับ และประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามที่กำหนด ใช้แต่งในงานพิธีการตอนค่ำ หรืองานพระราชพิธีต่างๆ เช่นเข้าเฝ้าฯรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

๔. ชุดไทยบรมพิมาน ใช้ซิ่นไหมยกดิ้นเงินหรือดิ้นทอง มีเชิงเย็บแบบจีนหน้านาง ตัวเสื้อใช้ผ้าไหมเรียบตัดเย็บเป็นแขนยาว คอตั้งผาหล้ง สวมเก็บชายเสื้อไว้ใต้ของเอวผ้าซิ่น คาดเข็มขัดทอง หัวเข็มขัดประดับอัญมณีแบบไทย สวมรองเท้าทอง ประดับอัญมณีเต็มที่ สวมสายสะพายตามที่กำหนดการระบุไว้ใช้แต่ไปในงานที่เป็นพิธีการระดับสูงในเวลากลางวันหรือค่ำ เช่น งานราตรีสโมสร เป็นต้น

๕.ชุดไทยจักรี ซิ่นตัดเย็บด้วยไหมยกดิ้นเงินหรือดิ้นทอง เป็นแบบจีบหน้านาง เสื้อเป็นไหล่ ห่มสไบเฉียงปิดไหล่ซ้าย ทิ้งชายสไบทอดยาวลงถึงชายซิ่นคาดเข็มขัดทองหัวแบบไทย ประดับอัญมณีเต็มที่ สวมสร้อยสะพานทับบนสไบสวมรองเท้าทอง ใช้แต่งในงานพิธีการสำคัญตอบค่ำ เช่น งานพิธีเลี้ยงรับรองแขงแมือง

๖.ชุดไทยศิวาลัย เป็นแบบเดียวกับชุดไทยบรมพิมาน ห่มสไบทับ ใช้ในงานพิธีเต็มยศ ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

๗.ชุดไทยดุสิต ลักษณะเป็นซิ่นยาวกรอมข้าเท้า ตัดเย็บด้วยผ้าไหมสีเรียบ หรือผ้ายก แบบจับหน้านาง เสื้อคอกลมคอกว้างคล้ายคอกระเช้าไม่มีจีบรูดไม่มีแขน ตัวเสื้อปักด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง

๘.ชุดไทยจักรพรรดิ แบบซิ่นป้ายเช่นเดียวกับชุดไทยศิวาลัย แต่ใช้ผ้ายทองตัดเย็บซิ่น เสื้อผ้าไหมคอตั้งผ้าหลัง ห่มสไบเฉียงแบบจีนชั้นใน ทับด้วยสไบปัก เผยให้เห็นรอยจีบของสไบชั้นในเล็กน้อย ประดับอัญมณีเต็มที่ แต่ทรงผแบบไทย เช่น เกล้าผมประดับด้วยเกี้ยวหรือมงกุฎ ใช้ในงานพิธีเต็มยศสำคัญ เช่นงานพิธีรับรองพระมหากษัตริย์ต่างประเทศ หรือเลี้ยงรับรองแขกเมืองเป็นทางการ