ฟ้าใส ๆ ใต้เงาพระจันทร์

บรรยากาศเช้าวันนี้ดูมืดทะมึนอย่างไรพิกล พยับเมฆสีดำครึ้ม ลอยละลิ่วผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหย่อน ก้อนแล้ว ก้อนเล่า มันมาจากไหนกันนะ ไม่รู้จักหมดสักที นกกาพากันบินฉวัดเฉวียน สวนกันไป สวนกันมา ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะออกไปหาตัวหนอนกลับมาเลี้ยงลูกดี หรือว่าจะอยู่ให้ความอบอุ่นกับลูกน้อยดี บางตัวก็ซุกตัวอยู่บนซอกหลังคาบ้านเตรียมหลบพายุฝนที่กำลังจะมาถึง ท้องไร่ท้องนา แล้งฝนมากว่าสามเดือนแล้ว เหลือเพียงตอไม้แห้งกับผืนดินที่แตกระแหง ถึงเวลาแล้วซินะที่ชาวนาจะได้เริ่มลงแรงถางไร่ ไถนา เริ่มวิถีชีวิตของเกษตรกรเสียที หลังจากไม่มีอะไรจะทำ มาหลายเดือนแล้ว เพราะชีวิตของเขา ต้องพึ่งพาอาศัยฝนฟ้าเพื่อนำพาเอาความชุ่มชื้นมาสู่ท้องไร่ท้องนา หลังจากนี้อีกไม่นานนาคงจะเขียวชะอุ่มไปด้วยต้นกล้า ไร่คงจะอุดมไปด้วยพืชนาๆ ชนิด คันไถที่นอนสงบนิ่งไร้ซึ่งประโยชน์ ก็จะถูกนำมาปัดฝุ่นเข้าเทียมควายเพื่อใช้ไถนา ชีวิตที่เคยแร้นแค้น ก็จะกลับคืนมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง ตามวัตจักรที่มันควรจะเป็น

และแล้ว ฝนหยดแรกก็ร่วงลงสู่พื้นดิน เริ่มด้วยละอองฝนเป็นฝอยเล็กๆ ก่อนแล้วขยายขนาดใหญ่ขึ้นจนเป็นหยดน้ำ พร่างพรูลงมาไม่ขาดสาย พายุยังพัดโหมกระหน่ำมาเป็นระยะ ๆ รับรู้ได้จากม่านฝนที่ทะลักทลายลงมาเป็นเกลียวคลื่น ซัดซ่าลงสู่ผืนดินไม่ขาดระยะ ฝูงนกกาพากันหลบลี้หนีหน้าหายกันไปหมดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่กับที่ ยกเว้นสายฝนที่กำลังพัดกระหน่ำอยู่ขณะนี้ นานเท่าใด ไม่มีใครมีกะใจพอจะนั่งนับเวลา เมื่อฝนเริ่มซา ผู้คนนกกาก็เริ่มออกทำมาหากิน เลี้ยงปากเลี้ยงท้องและครอบครัว ท้องฟ้าบัดนี้ ดูสดใสชุ่มชื่น ไม่มีเงาแห่งความอึมครึมแห่งพยับเมฆอีกต่อไป มีแต่ความสดใสร่าเริงแห่งชีวิตใหม่ที่กำลังเริ่มต้นในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ พร้อมกับจันทร์เจ้าดวงกลมโตของคืนวันเพ็ญ ที่คอยเป็นกำลังใจให้ทุกผู้ทุกนาม ต่อสู้ฝ่าฟันกับชีวิตต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ เหมือนกับจันทร์เจ้า ที่แม้ว่าจะมาไม่เต็มดวงได้ในทุกวัน แต่ จันทร์เจ้าก็มาเต็มดวงให้เราชื่นชมกับแสงนวลนุ่มอ่อนแต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นได้เสมอ ยามใดที่พยับเมฆ คอยปิดบังแสงจันทร์เอาไว้ จันทร์เจ้าก็ไม่เคยย่อท้อเกี่ยงงอน ยังคงทำหน้าที่ของตนเอง อย่างสม่ำเสมอ ทุกวี่วัน นานเท่านาน